Sunday, December 6, 2009

ดุอาอฺยามเช้าและยามเย็น (2)

ดุอาอฺยามเช้าและยามเย็น (2)
Submitted by dp6admin on Tue, 13/10/2009 - 15:59
7. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ จะกล่าวถ้อยคำต่อไปนี้ทั้งในยามเช้าและยามเย็นอยู่เสมอ
الَّلهُمَّ إِنِّي أَسْأَلُكَ العَافِيَةَ في الدُّنْيَا وَالأَخِرَةَ ،
[ อัลลอฮุมมะ อินนี อัสอะลุกัลอาฟิยะฮฺ ฟิดดุนยา วัลอาคิเราะฮฺ ]
โอ้อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ให้มีสุขภาพดีทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ اللَّهُمَّ إِنّي أَسْأَلُكَ العَفْوَ والعَاِفَيَة في دِيِْنْي وَدُنْيَايَ وَأَهْلِيْ وَمَالِي،[ อัลลอฮุมมะอินนี อัสอะลุกัลอัฟวะ วัลอาฟิยะฮฺ ฟีดีนีวะดุนยา วะอะฮฺลียฺวะมาลียฺ ]
โอ้อัลลอฮฺ ข้าพระองค์ขออภัยโทษต่อพระองค์และการมีพลานามัยในการปฏิบัติตามศาสนาของข้า พระองค์ และการดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ของข้าพระองค์ และการอบรมสั่งสอนครอบครัวของข้าพระองค์ และการรักษาทรัพย์ของข้าพระองค์
اللَّهُمَّ اسْتُرْ عَوْرَاتِيْ وَآَمِنْ رَوْعَاتِيْ ،[ อัลลอฮุมมัสตุร เอารอตียฺ วะอามิน เราอาตียฺ ]
โอ้อัลลอฮฺ ทรงปกปิดข้อผิดพลาดต่างๆของข้าพระองค์ และทรงให้ข้าพระองค์ปลอดภัยจากความหวาดกลัวทั้งหลาย
الَّلهُمَّ احْفَظْنِيْ مِنْ بَيْنِ يَدَيَّ وَمِنْ خَلْفِيْ وَعَنْ يَمِيْنِيْ وَعَنْ شِمَالِيْ وَمِنْ فَوْقِيْ[ อัลลอฮุมมะหฺฟัซนียฺ มินบัยนิ ยะดัยยะ วะมินค็อลฟียฺ วะอันยะมีนียฺ วะอันชิมาลียฺ วะมินเฟากียฺ ]
โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงคุ้มครองข้าพระองค์จากเบื้องหน้าของข้าพระองค์ จากเบื้องหลังของข้าพระองค์ จากเบื้องขวาของข้าพระองค์ และจากเบื้องซ้ายของข้าพระองค์
وَأَعُوْذُ بِعَظَمَتِكَ أَنْ أُغْتَالَ مِنْ تَحْتِيْ .
[ วะอะอูซุ บิอะเซาะมะติกะ อันอุฆตาละ มินตะหฺตียฺ ]
และข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้พ้นจากการได้รับภยันตรายจากภายใต้ของข้าพระองค์(คือถูกธรณีสูบ)
رواه أبو داود .(บันทึกโดยอะบูดาวุด)
8. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม อ่านดุอาอฺนี้ในยามเช้า
الَّلهُمَّ بِكَ أَصْبَحْنَا وَبِكَ أَمْسَيْنَا وَبِكَ نَحْيَا وَبِكَ نَمُوْتُ وَإِلَيْكَ النُّشُوْرُ .
[ อัลลอฮุมมะบิกะ อัศบะหฺนา วะบิกะอัมซัยนา วะบิกะนะหฺยา วะบิกะนะมูตุ วะอะลัยกันนุชูร ]
ความว่า โอ้อัลลอฮฺ ด้วยพระองค์ท่านเราขอเริ่มวันใหม่ และด้วยพระองค์ท่านเราได้เข้าสู่เวลาเย็น และด้วยพระองค์ท่านเราจึงมีชีวิตอยู่ และด้วยพระองค์ท่านเราจะตาย และเราจะฟื้นคืนชีพไปสู่พระองค์ท่าน
ในเวลาเย็นจะอ่านดังนี้
الَّلهُمَّ بِكَ أَمْسَيْنَا وَبِكَ أَصْبَحْنَا وَبِكَ نَحْيَا وَبِكَ نَمُوْتُ وَإِلَيْكَ النُّشُوْرُ .
[ อัลลอฮุมมะบิกะ อัมซัยนา วะบิกะอัศบะหฺนา วะบิกะนะหฺยา วะบิกะนะมูตุ วะอะลัยกันนุชูร ]
ความว่า โอ้อัลลอฮฺ ด้วยพระองค์ท่านเราได้เข้าสู่เวลาเย็น และด้วยพระองค์ท่านเราขอเริ่มวันใหม่ และด้วยพระองค์ท่านเราจึงมีชีวิตอยู่ และด้วยพระองค์ท่านเราจะตาย และเราจะฟื้นคืนชีพไปสู่พระองค์ท่าน (หะดีษศ่อเฮี้ยะฮฺ บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ)
9. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม สอนให้เราอ่านดุอาอฺต่อไปนี้ในเวลาเช้า 3 ครั้ง
أَصْبَحْنَا عَلَى فِطْرَةِ الإِسْلامِ وَكَلِمَةِ الإِخْلاصِ وَدِيْنِ نَبِيِّنَا مُحَمَّدٍ وَمِلَّةِ أَبِيْنَا إِبْرَاهِيْمَ حَنِيْفَاً مُسْلِمَاً وَمَا كَانَ مِنَ المُشْرِكِيْنَ .
[ อัศบะหฺนา อะลาฟิฏเราะติลอิสลาม, วะกะลิมะติลอิคลาศ, วะดีนินะบียินา มุฮัมมัด, วะมิลลาติอะบีนา อิบรอฮีม, หะนีฟัมมุสลิมา วะมากะนามินัลมุชริกีน ]
ความว่า “เราได้เริ่มวันใหม่โดยตั้งอยู่บนธรรมชาติของอิสลาม และบนถ้อยคำแห่งการเตาฮีด (ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ) และบนศาสนาของนะบีของเรา คือมุฮัมมัด และบนแนวทางของบิดาของเราคือนะบีอิบรอฮีม ผู้ยึดมั่นอยู่ในแนวทางที่เที่ยงธรรมและมิเคยอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคีกับพระองค์”
เวลาเย็นให้กล่าวอีก 3 ครั้ง โดยเปลี่ยนเป็น อัมซัยนา
أَمْسَيْنَا عَلَى فِطْرَةِ الإٍِسْلامِ ... رواه أحمد وصححه الألباني .
10. เวลาเย็นท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้อ่านดุอาอฺต้นนี้คือ
أَمْسَيْنَا وَأَمْسَى المُلْكُ للهِ وَالحَمْدُ لله ،
เราเข้ามาอยู่ในเวลาเย็น อำนาจการปกครองเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ
لا إِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ ،
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์
لَهُ المُلْكُ وَلَهُ الحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ ،
อำนาจทั้งหลายเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และการสรรเสริญทั้งมวลก็เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง
رَبِّ أَسْأَلُكَ خَيْرَ مَا فِيْ هَذَه الَّليْلَةِ وَخَيْرَ مَا بَعْدَهَا
โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอต่อพระองค์ท่านสิ่งซึ่งเป็นคุณงามความดีที่มีอยู่ในค่ำคืนนี้ และคุณงามความดีที่จะมีมาภายหลังค่ำคืนนี้
وَأَعُوْذُ بِكَ مِنْ شَرِّ هَذِهِ الَّليْلَةِ وَشَرِّ مَا بَعْدَهَا ،
และข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่มีอยู่ใน ค่ำคืนนี้ และความชั่วร้ายที่จะมีมาภายหลังค่ำคืนนี้
رَبِّ أَعُوْذُ بِكَ مِنْ الكَسَلِ وَسُوْءِ الكِبَرِ ،
โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความเกียจคร้านและความเลวร้ายในวัยชรา
رَبِّ أَعُوْذُ بِكَ مِنْ عَذَابٍ في النَّارِ وَعَذَابٍ في القَبْرِ .
โอ้พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษในนรกและการลงโทษในกุบูร(หลุมฝังศพ)
ในเวลาเช้าให้เปลี่ยนจาก أَمْسَيْنَا وَأَمْسَى المُلْكُ للهِ
เป็น อัศบะฮฺนา วะอัศบะฮัลมุลกุลิลลาฮฺ
11. ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ผู้ใดกล่าวว่า سُبْحَانَ اللهِ وَبِحَمْدِهِ ในวันหนึ่ง 100 ครั้ง ความผิดต่างๆของเขาจะถูกลบล้างไป ถึงแม้ว่าความผิดเหล่านั้นจะมีเท่าฟองน้ำของทะเลก็ตาม” (บันทึกโดยมุสลิม)
12. “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ในยามเช้า
لا إِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ ، لَهُ المُلْكُ وَلَهُ الحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْرٌ .
ความว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ไม่มีภาคีใดๆคู่เคียงกับพระองค์ อำนาจและการสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์ทรงเดชรนุภาพเหนือทุกสิ่ง
เท่ากับเขาได้ปล่อยทาสจากลูกหลานนะบีอิสมาอีลและลบล้างความผิด 10 ครั้งออกจากเขา และเพิ่มความดีให้แก่เขา 10 เท่า และได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากชัยฏอนจนถึงเวลาเย็น และเมื่อถึงเวลาเย็นจนกระทั่งรุ่งเช้า” (ศ่อเฮียะฮฺสุนันอิบนฺมาญะฮฺ)
และในบันทึกของมุสลิมว่า “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ 10 ครั้ง” เสมือนกับว่าเขาได้ปล่อยทาสจากลูกหลานอิสมาอีล 10 คน
และอีกรายงานหนึ่งของมุสลิมกล่าวว่า “ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ 100 ครั้ง” เท่ากับเขาได้ปล่อยทาส 10 คน ความดี 100 ครั้งจะถูกบันทึกให้แก่เขา ความชั่ว 100 ครั้งจะถูกลบล้างไปจากเขา และเขาจะได้รับความคุ้มครองให้พ้นจากชัยฏอนในวันนั้นจนกระทั่งถึงเวลาเย็น และไม่มีผู้ใดจะได้รับความดีมากกว่าเขาในสิ่งที่เขาได้กระทำไปนอกจากผู้ที่ กระทำมากกว่า(หมายถึงผู้ที่อ่านดุอาอฺต้นนี้มากกว่า 100 ครั้ง)