Tuesday, September 29, 2009

เรื่องราวการรับอิสลาม : ฐิติมา เบญจวรธรรม (ยุ้ย-นูรอัยนี)

เรื่องราวการรับอิสลาม : ฐิติมา เบญจวรธรรม (ยุ้ย-นูรอัยนี)
[ ไทย ]


إسلام الأخت نورعيني ينچاوأتم
[ باللغة التايلاندية ]



www.muslimthai.com
موقع المسلمون في تايلاند



ตรวจทาน: ซุฟอัม อุษมาน
مراجعة: صافي عثمان



สำนักงานความร่วมมือเพื่อการเผยแพร่และสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุงริยาด
المكتب التعاوني للدعوة وتوعية الجاليات بالربوة بمدينة الرياض
1429 – 2008


ฐิติมา เบญจวรธรรม (ยุ้ย-นูรอัยนี)

หลายครั้งหลายหน ที่ใครต่อใครจะพากันถามยุ้ยว่าทำไมดิฉันถึงมาเข้ารับอิสลาม เพราะทุกคนดูหน้าตายุ้ยแล้ว ทุกคนก็จะรู้ทันทีว่ายุ้ยไม่ใช่มุสลิมเดิมแน่นอน สิ่งหนึ่งที่ยุ้ยไม่เคยปฏิเสธเลย แล้วยุ้ยก็ไม่อายด้วยที่จะตอบว่า "ยุ้ยมีแฟนเป็นมุสลิม" ซึ่งเค้าเป็นคนแรกที่ทำให้ยุ้ยได้รู้จักอิสลาม เราคบกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เค้าก็ได้พายุ้ยไปงานเมาลิดกลาง และยุ้ยก็ได้ซื้อหนังสือมาอ่าน ครั้งแรกที่ซื้อจำได้เลยว่ามีหนังสือชื่อ "อิสลามเบื้องต้น" ทำให้ยุ้ยเข้าใจศาสนาขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่มากมายอะไร
และเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2541 ยุ้ยได้มาเรียนที่สันติชน ยุ้ยประทับใจครูทุกท่านที่นี่มาก เพราะครูไม่เคยบังคับให้ยุ้ยเชื่อ ครูมีเหตุแล้วก็มีผลให้กับทุกคนเสมอ ครูให้ทุกคนใช้วิจารณญาณที่อัลลอฮฺประทานให้กับทุกคนได้คิดเอาเองว่าสิ่งที่ครูบอก สิ่งที่อัลกุรอานได้บอกเอาไว้เป็นจริงหรือไม่ ยุ้ยได้เรียน ทำให้ยุ้ยได้ทราบอะไรมากมายซึ่งบางทียุ้ยอาจจะทราบมากกว่าคนที่เป็นมุสลิมเดิมเสียอีก แต่การที่รู้ไม่ปฏิบัติมันก็แค่นั้น รู้น้อยแล้วปฏิบัติตามค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ ยุ้ยว่าดีกว่าเสียอีก จริงไม๊หล่ะค่ะ
ก่อนหน้าที่ยุ้ยจะเข้ารับอิสลามนั้น ยุ้ยเองก็ไม่ต่างจากมุอัลลัฟคนอื่นๆ ยุ้ยเจอปัญหา และการทดสอบจากอัลลอฮฺ เหมือนๆ กับทุกคนนั่นก็คือ 'ครอบครัว' ยุ้ยคบแฟนตั้งแต่เรียนมหาลัยปีหนึ่งจนจบมหาลัยยุ้ยถึงจะเพิ่งบอกกับแม่ว่ายุ้ยมีแฟน และแฟนยุ้ยเป็นมุสลิม เชื่อไม๊ว่าวันแรกที่แม่รู้ แม่ยุ้ยนอนไม่หลับ แล้วก็นอนร้องไห้ทั้งคืน ยุ้ยไม่ร้ว่ายุ้ยจะต้องทำยังไง ก่อนนอนก็ได้แต่ขอต่ออัลลอฮฺทุกคืน เพราะยุ้ยไม่อยากเป็นคนสองศาสนา มุสลิมเดิมบางคนชอบถามยุ้ยว่าเมื่อไหร่จะเข้ารับอิสลามเสียที ยุ้ยก็ได้แต่บอกเค้าว่า "รอให้อัลลอฮฺเปิดใจให้ยุ้ยกว้างกว่านี้ก่อน" เค้าก็จะถามยุ้ยกลับมาอีกว่า แล้วถ้าเกิดยุ้ยเป็นอะไรไปตอนนี้ หรือว่าวันอาคีเราะฮฺมาถึง แล้วยุ้ยจะทำยังไง ยุ้ยก็ได้แต่ตอบว่า "อัลลอฮฺ เปิดใจยุ้ยมาตั้งสี่ปี ถ้าอัลลอฮฺจะปิดใจยุ้ย หรือว่าจะให้ยุ้ยตายตอนนี้ ยุ้ยถือว่าอัลลอฮฺไม่รับคนอย่างยุ้ยก็แล้วกัน" ไม่ใช่ว่ายุ้ยจะไม่คิดไม่กลัวนะแต่ทำไงได้ ยุ้ยถ้ามุสลิมเดิมต้องตกอย่ในสภาวะแบบยุ้ย ว่าเค้าจะเข้าใจ แฟนยุ้ยไม่เคยบังคับให้ยุ้ยต้องเข้ารับอิสลาม เค้าบอกยุ้ยว่าเค้าอยากให้ยุ้ยเข้ารับ เพราะว่ายุ้ยศรัทธา ไม่ใช่เพราะว่ายุ้ยมีเค้า ยุ้ยรักเค้า แล้วยุ้ยถึงเข้ารับ
แม่ยุ้ยจะถามยุ้ยบ่อยมากว่า คิดดีแล้วเหรอ คิดให้ดีๆ นะ แล้วคำตอบที่แม่ได้จากยุ้ยทุกครั้งจะเหมือนเดิมทุกทีก็คือ "ยุ้ยคิดดีแล้ว" ตอนยุ้ยมาเรียนที่สันติชนใหม่ๆ ยุ้ยไม่ได้คลุมฮิญาบ แต่พอยุ้ยไปที่นาคนาวาฟาร์มกับเพื่อนๆ ที่สันติชนยุ้ยรู้สึกว่าายุ้ยเป็นแกะดำ พอกลับมาไม่นานยุ้ยก็คลุมฮิญาบ โดยที่ยุ้ยยังไม่ได้เข้ารับอิสลาม
เพื่อนๆ และมุสลิมที่ยุ้ยไม่ร้จักจะทักกับยุ้ยแบบมุสลิม ยุ้ยจะจับมือกับเค้า แต่ยุ้ยจะไม่กล่าวรับสลาม ยุ้ยเองก็รู้สึกกระดาก อยากจะบอกเค้าว่าอย่ากล่าวสลามกับยุ้ย เพราะยุ้ยยังไม่ได้เป็นมุสลิมอย่างเพื่อนๆ ยุ้ยก็จะบอกเค้าได้แต่คนที่ยุ้ยไม่ร้จักหล่ะ ยุ้ยไม่รู้จะบอกเค้ายังไงดี เวลาจะซักฮิญาบทีก็ลำบาก ต้องรอให้ทุกคนนอนกันหมดก่อน แล้วค่อยแอบลงมาซัก แล้วก็เอาเข้าเครื่องซักผ้าปั่นให้หมาด ผูกเชือกในห้องนอนเป็นราวตากผ้า เช้าขึ้นมาก็ต้องรีบเก็บใส่ตู้เพราะกลัวแม่มาเห็น เวลาจะคลุมที ก็ต้องออกไปคลุมที่ป้ายรถเมลล์ไม่ก็หน้าปากซอยบ้าน
วันหนึ่งยุ้ยเจอเว็บไซด์ของมุสลิมไทย www.muslimthai.com และทำให้ยุ้ยได้เจอกับอีเมล์ของครูสุไลมาน (ประธานเว็บไซท์) ทำให้ยุ้ยติดต่อกับครูทางอินเตอร์เน็ทมาตลอดเวลาที่ยุ้ยไม่เข้าใจอะไร ยุ้ยก็จะส่งเมลล์ไปถามครูเสมอ และเว็บไซด์นี้ก็ทำให้ยุ้ยรู้จักกับมุสลิมคนอื่นๆ อีกหลายคน
เชื่อไม๊ว่ามีวันหนึ่งเป็นวันที่ยุ้ยกลัวตายมากที่สุด ยุ้ยมาเรียนที่สันติชนวันนั้นครูซัลมาบอกว่าคนที่ยังไม่เข้ารับอิสลามต้องบอกว่า "ชั้นตายไม่ได้" ขากลับยุ้ยต้องนั่งเรือหางยาว (คลองแสนแสบ) กลับ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมเรือหางยาวหยุดวิ่งที่คล้ายเรือแข่งมาวิ่งแทนลำหนึ่ง จะนั่งได้ประมาณ 10 คน แถวหนึ่งนั่ง ได้ 2 คนซึ่งเรือแคบมาก เวลาที่เรือแล่นมันจะกระแทกน้ำ และขอบเรือจะปริ่มน้ำตลอด แล่นๆ ไปเรือ เกิดดับกลางคลองแสนแสบ ยุ้ยรู้สึกกลัวมาก ในใจได้แต่คิดว่ายังตายไม่ได้ อย่างที่ครูซัลมาบอก ก็เลยเลยได้แต่ท่องว่า "อัลลอฮุอักบัร กับ บิสมิลลาฮิรเราะฮฺมานิรเราะฮีม" และยุ้ยก็ได้แต่พูดในใจว่า "อัลลอฮฺ ขอได้โปรดอย่าเพิ่งให้ยุ้ยตายตอนนี้เลย เพราะยุ้ยยังไม่ได้เข้ารับอิสลาม" แล้วยุ้ยก็รอดผ่านพ้นมาจนมีชีวิตถึงทุกวันนี้ได้อย่างปลอดภัย อัลฮัมดุลิลลาฮฺ
และเมื่อยุ้ยรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยจนจบทำงาน ได้ประมาณปีนึง ยุ้ยก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ยุ้ยขอกับอัลลอฮฺ ทุกคืนก่อนนอนจะเป็นจริงได้เร็วถึงขนาดนี้ เพราะใครๆ จะพากันถามยุ้ยว่าเมื่อไหร่จะนิกะห์? เมื่อไหร่จะเข้ารับอิสลาม? ยุ้ยจะบอกว่าอีกสองปีมาตลอด แต่สุดท้ายกลายเป็นสองเดือนเท่านั้น แม่ยอมให้ยุ้ยนิกะห์กับแฟน ตอนแรกยุ้ยบอกแม่ว่ายุ้ยยังไม่นิกะห์ก็ได้ แต่ให้ยุ้ยเข้ารับอิสลามแม่บอกว่า ถ้าจะเข้ารับอิสลามก็ไม่ต้องอยู่ที่บ้าน ถ้าจะเข้ารับอิสลามก็ให้แต่งงานไปเลย ยุ้ยก็เลยเข้ารับอิสลามวันเดียวกับวันที่นิกะห์ คือวันที่ 4 เมษายน 2542 มีชื่อมุสลิมว่า นูรอัยนี อัลฮัมดูลิลลาฮฺ ค่ะ
ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่านบีมูฮัมมัด เป็นร่อซูล(ศาสนทูต)ของพระองค์ ขอเอกองค์อัลลอฮ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานฮิดายะห์ (ทางนำ) ให้กับทุกคนนะค่ะ
วัสลามุอะลัยกุม วะเราะฮฺมาตุลเราะฮิวะบะรอกาตุฮฺ