Sunday, December 6, 2009

การซิกรุลลอฮฺโดยทั่วไป

การซิกรุลลอฮฺโดยทั่วไป
Submitted by dp6admin on Fri, 02/10/2009 - 08:54
1. การอ่านอัลกุรอาน
พึงทราบเถิด การอ่านอัลกุรอานนั้นเป็นการซิกรุลลอฮฺที่แน่นอน มั่นใจ และประเสริฐยิ่ง ดังนั้น จึงสมควรที่จะกระทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องและเป็นประจำในทุกกาลเวลา ในเวลากลางคืนและกลางวัน ในขณะเดินทางและไม่เดินทาง ไม่สมควรจะละเลยจากการอ่านอัลกุรอาน ถึงแม้จะอ่านเพียงบางอายาตก็จะเป็นการดีสำหรับเขา
อัลลอฮฺตะอาลา ได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺฟาฏิร อายะฮฺที่ 29-30 มีความหมายว่า "แท้จริงบรรดาผู้อ่านคัมภีร์ของอัลลอฮฺและดำรงการละหมาดและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาโดยซ่อนเร้นและเปิดเผย เพื่อหวังการค้าที่ไม่ซบเซา (ขาดทุน)" (35:29) กล่าวคือ ผู้ที่อ่านอัลกุรอานเป็นประจำทั้งในเวลากลางคืนและกลางวัน ปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ยิ่งตามเวลาของมันด้วยการมีสมาธิ มีมารยาทตามเงื่อนไงและรุกุ่นของมัน และบริจาคทรัพย์สินของเขาไปในหนทางของอัลลอฮฺ โดยหวังความโปรดปรานจากพระองค์"เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนรางวัลของพวกเขาให้แก่พวกเขาอย่างครบถ้วน และจะทรงเพิ่มพูนให้แก่พวกเขาจากความโปรดปรานของพระองค์ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงชื่นชม(เพราะการภักดีของพวกเขา)" (35:30) ในหนังสือ "อัตตัสฮีล" กล่าวไว้ว่า การให้รางวัลตอบแทานอย่างครบถ้วน คือสิ่งที่ผู้จงรักภักดีสมควรจะได้รับการตอบแทน และการเพิ่มคือการเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือการมองไปยังพระพักตร์ของพระองค์ อิบนุกะษีรกล่าวว่า เมื่อมุฏร็อฟได้อ่านอายะฮฺนี้ เขากล่าวว่า นี่คืออายะฮฺของบรรดานักอ่าน(อัลกุรอาน)
บรรดาหะดีษที่ยืนยันถึงคุณประโยชน์ในบางซูเราะฮฺ
ท่านนบี ได้สนับสนุนให้อ่านอัลกุรอานในบางซูเราะฮฺ เช่น ซูเราะฮฺอัลฟาติฮะฮฺ อัลบะเกาะเราะฮฺ อาลอิมรอน อัลกะฮฺฟฺ ฮูด อัลวากิอะฮฺ อัลมุรซะลาต อันนะบะอฺ (อัมมะยะตะซาอะลูน) อัตตักวีร อัลมุลกฺ อัลอิมฟิฏอร อัลอินชิก๊อก อัลอิคลาศ อัลฟะลัก และอันนาส โดยท่านได้กล่าวถึงความประเสริฐและผลตอบแทนแก่ผู้อ่านไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะท่านได้กล่าวไว้มีความว่า "ผู้ใดอ่านอักษรเดียวจากคัมภีร์ของอัลลอฮฺ เขาจะได้รับหนึ่งความดี และหนึ่งความดีมีผล 10 เท่าของความดี ฉันจะไม่พูดว่า อะลิฟ ลาม มีม เป็นอักษรเดียว แต่ทว่า อะลิฟเป็นอักษรหนึ่ง ลามเป็นอักษรหนึ่ง และมีมเป็นอักษรหนึ่ง"และท่านได้กล่าวไว้อีกว่า "อายะฮฺอัลกุรซีย์ เป็นอายะฮฺที่ยิ่งใหญ่อายะฮฺหนึ่งในคัมภีร์ของอัลลอฮฺ""ผู้ใดอ่านสองอายะฮฺสุดท้ายจากซูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺในคืนหนึ่ง ก็จะเป็นการพอเพียงแก่เขา""ซูเราะฮฺต่าง ๆ ที่ทำให้ฉันแก่ลงก็คือ ฮูด อัลวากิอะฮฺ อัลมุรซะลาต อัมมะยะตะซาอะลูน (อันนะบะอฺ) และอิซัชชัมซุกู้วิรอต (อัตตั๊กวีร)" คือซูเราะฮฺต่าง ๆ ดังกล่าว ได้กล่าวถึงเรื่องของวันกิยามะฮฺ"ซูเราะฮฺหนึ่งจากอัลกุรอาน มีเพียงสามสิบอายะฮฺที่ปกป้องผู้ที่อ่านมัน จนกระทั่งมันจะพาเขาเข้าสวนสวรรค์ นั่นคือ ซูเราะฮฺตะบาร่อกะ (อัลมุลกฺ)""ผู้ใดอ่าน ซูเราะฮฺอัลอิคลาส 10 ครั้ง อัลลอฮฺจะสร้างบ้านให้เขาหลังหนึ่งในสวนสวรรค์"
ท่านนบี ได้กล่าวกับอิบนฺอับบาสว่า "โอ้อิบนฺอับบาสเอ๋ย ! พึงทราบเถิด ! ฉันจะบอกกับท่านถึงสิ่งที่ประเสริฐยิ่งในสิ่งที่บรรดาผู้ขอความคุ้มครองจะขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮฺไหม ? คือ ท่านจงอ่านสองซูเราะฮฺนี้คือ กุลอะอูซุบิร็บบิลฟะลัก และ กุลอะอูซุบิร็อบบินนาส"
2. การกล่าวศ่อละวาตหรือประสาทพรแก่ท่านนบี
อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัลอะหฺซาบ อายะฮฺที่ 56 ว่าإِنَّ اللَّهَ وَمَلَائِكَتَهُ يُصَلُّونَ عَلَى النَّبِيِّ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْلِيماًความว่า "แท้จริงอัลลอฮฺและมะลาอิกะฮฺของพระองค์ประสาทพรแก่นบี โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! พวกเจ้าจงประสาทพรให้แก่เขา และกล่าวทักทายเขาโดยคารวะ" (33:56)
อัลกุรฏุบีย์กล่าวว่า การประสาทพรจากอัลลอฮฺแก่นบี หมายถึง ความเมตตาและความโปรดปรานของพระองค์ จากมะลาอิกะฮฺ หมายถึง การขอพรและขออภัยโทษให้แก่ท่าน จากประชาชาติ หมายถึง การขอพรและการยกย่องให้เกียรติแก่ท่าน คือทุกครั้งที่มีการกล่าวชื่อของท่าน พวกท่านก็จงกล่าวคำว่า ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ()
อัลอะหะดีษมากมายได้กล่าวถึงความประเสริฐและคุณประโยชน์ของการกล่าวศ่อละวาตหรือประสาทพรให้แก่ท่านนบี ซึ่งจะขอนำมากล่าวไว้เป็นศิริมงคลคือ
2.1 มีรายงานจากอะบีฏ้อลหะฮฺ กล่าวว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้ออกไปหาพวกเขา (ศ่อฮาบะฮฺ) วันหนึ่ง พวกเขาตระหนักดีถึงความดีใจจากใบหน้าของท่าน แล้วพวกเขาได้กล่าวขึ้นว่า “แท้จริงขณะนี้พวกเราตระหนักดีถึงความดีใจจากใบหน้าของท่าน โอ้ท่านร่อซูลของอัลลอฮฺ!” ท่านร่อซูลได้ตอบว่า "ถูกต้อง เมื่อสักครู่นี้ได้มีทูตจากพระเจ้าของฉันมาหาฉัน แล้วได้บอกแก่ฉันว่า ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดจากประชาชาติของฉันได้กล่าวศ่อละวาตให้แก่ฉัน เว้นแต่อัลลอฮฺจะตอบรับมันให้แก่เขาถึงสิบเท่า"
2.2 มีรายงานจากอะบีบักร แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "พวกท่านจงกล่าวศ่อละวาตมาก ๆ ให้แก่ฉัน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺทรงแต่งตั้งมะลักท่านหนึ่งเป็นตัวแทน ให้ทำหน้าที่แทนฉันที่กุบูรของฉัน เมื่อผู้ใดจากประชาชาติของฉันกล่าวศ่อละวาตแก่ฉัน มะลักท่านนั้นจะกล่าวแก่ฉันว่า โอ้มุฮัมมัด ขณะนี้คนนั้นบุตรคนนี้ได้กล่าวศ่อลาวาตแก่ท่าน"
2.3 มีรายงานจากอนัส แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "จงกล่าวศ่อลาวาตมาก ๆ ให้แก่ฉันในวันศุกร์และคืนวันศุกร์ เพราะผู้ใดกล่าวศ่อลาวาตแก่ฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮฺจะทรงยกโทษให้แก่เขาสิบเท่า"
2.4 มีรายงานจากอะลี อิบน ฮุไซน์ จากบิดาของเขา แจ้งว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "แท้จริง ผู้ตระหนี่นั้นคือ ผู้ที่(ชื่อของ)ฉัน ได้ถูกกล่าวต่อหน้าเขา แล้วเขามิได้กล่าวศ่อลาวาตให้แก่ฉัน"
3. การกล่าวอัตตะฮฺลีล
3.1 ในบันทึกของอัลบุคอรียฺและมุสลิม และรายงานจากอะบีฮุรอยเราะฮฺ แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
" ผู้ใดกล่าวว่า لا إِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ لَهُ المُلْكُ وَلَهُ الحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيْر
[ ลาอิลาหะ อิลลัลลอฮฺ วะหฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลา กุลลิชัยอิงเกาะดีร = ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียว ไม่มีภาคีใด ๆ กับพระองค์ และการสรรเสริญนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งอย่าง ]
ผู้ใดกล่าวข้อความดังกล่าวในวันหนึ่งร้อยครั้ง เท่ากับเขาปล่อยทาส 10 คน ความดีจะถูกบันทึกให้แก่เขาหนึ่งร้อยเท่า ความชั่วจะถูกลบออกจากเขาหนึ่งร้อยเท่า ในวันนั้นเขาจะได้รับความคุ้มกันให้พ้นจากชัยฏอนจนกระทั่งเวลาย่ำค่ำ และจะไม่มีผู้ใดได้รับผลบุญมากกว่าในสิ่งที่เขากระทำ นอกจากผู้ที่ได้กระทำมากกว่าเขา"
3.2 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
"แท้จริงการกล่าวดุอาอฺที่ประเสริฐยิ่งคือ الحَمْدُ للهِ [ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ = การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิของอัลลอฮฺ]
และกล่าวซิกรุลลอฮฺที่ประเสริฐยิ่งคือ لا إِلَهَ إِلا الله [ ลาอิลาหะ อิลลัลลอฮฺ = ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียว] ” (บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ อิบนิมาญะฮฺ และอัลบานียฺกล่าวว่าเป็นหะดีษหะซัน)
3.3 มีรายงานจากซะอฺดฺ อิบนฺ อะบีวักก๊อศ ร่อฎิยัลลอฮฺอันฮุ แจ้งว่า มีอาหรับชนบทคนหนึ่งได้มาหาท่านร่อซูลุลลอฮฺ แล้วกล่าวว่า จงสอนฉันคำกล่าวคำหนึ่งเพื่อที่ฉันจะได้ใช้กล่าว ท่านร่อซูลได้กล่าวว่า "จงกล่าว
لاإِلَهَ إِلا اللهُ وَحْدَهُ لا شَرِيْكَ لَهُ ، اللهُ أَكْبَرُ كَبِيْرَاً ، وَالحَمْدُ للهِ كَثِيْرَاً ، وَسُبْحَانَ رَبِّ العَالَمِيْنَ وَلا حَوْلَ وَلا قُوَّةَ إِلا بِاللهِ العَزِيْزِ الحَكِيْم .
[ ลาอิลาหะ อิลลัลลอฮฺ วะหฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺ, อัลลอฮุอั๊กบัร กะบีรอ, วัลฮัมดุลิลลาฮิ กะษีรอ, วะซุบฮานะ ร็อบบิ้ลอาละมีน, วะลาเฮาละ วะลากูวะตะ อิลลา บิลลาฮิลอะซีซิหะกีม ]
ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียว ไม่ภาคีใด ๆ กับพระองค์ อัลลอฮฺผู้ทรงเกรียงไกรยิ่ง และการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺอย่างมากมาย และมหาบริสุทธิ์พระเจ้าแห่งสากลโลก ไม่มีอำนาจและพลังใด ๆ นอกจากอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเดชานุภาพ พระผู้ทรงปรีชาญาณ"
เขากล่าวว่า ทั้งหมดนั้นสำหรับพระเจ้าของฉัน แล้วสิ่งที่เป็นของฉันเล่า ? ท่านร่อซูลได้กล่าวกับเขาว่า "จงกล่าวว่า
اللَّهُمَّ اغْفِرْ لِيْ وَارْحَمْنِيْ وَاهْدِنِيْ وَارْزُقْنِيْ
[ อัลลอฮุมมัฆฟิรลียฺ วัรฮัมนียฺ วะฮฺดินียฺ วัรซุกนียฺ ]
โอ้อัลลอฮฺ ! ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ ทรงประทานความเมตตาให้แก่ข้าพระองค์ ทรงชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้แก่ข้าพระองค์ และทรงประทานปัจจัยยังชีพให้แก่ข้าพระองค์" บันทึกโดยมุสลิม
4. การขออภัยโทษ
มีรายงานจากชัดด้าด อิบนฺ เอาส แจ้งว่า แท้จริงท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "สุดยอดของการกล่าวขออภัยโทษนั้น บ่าวของพระองค์จะต้องกล่าวว่า
اللَّهُمَّ أَنْتَ رَبِّيْ لا إِلَهَ إِلا أَنْت َخَلََقْتَنِيْ وَأَنَا عَبْدُكَ وَأَنَا عَلَى عَهْدِكَ وَوَعْدِكَ مَا اسْتَطَعْتُ
[ อัลลอฮุมมะอันตะร็อบบียฺ, ลาอิลาหะอิ้ลลาอันตะ เคาะลักตะนียฺ วะอะนะอับดุกะ วะอะนะอะลาอะฮฺดิกะ วะะวะอฺดิกะมัสตะเฏาะตุ,
โอ้อัลลอฮฺ ! พระองค์ท่านเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์ และข้าพระองค์เป็นบ่าวของพระองค์ และข้าพระองค์อยู่ภายใต้ข้อตกลงและคำมั่นสัญญาของพระองค์เท่าที่ข้าพระองค์ สามารถจะกระทำได้
أَعُوْذُ بِكَ مِنْ شَرِّ مَا صَنَعْتُ أَبُوءُ لَكَ بِنِعْمَتِكَ عَلَيَّ وَأَبُوْءُ بِذَنْبِيْ فَاغْفِِرْ لِيْ ذُنُوْبِيْ فَإِنَّهُ لا يَغْفِرُ الذُّنُوْبَ إلا أَنْتَ .
อะอูซุบิกะ มินชัรริมา เศาะนะอฺตุ, อะบูอุละกะ บินิอฺมะติกะ อะลัยยะ, วะอะบูอุ บิซัมบียฺ, ฟัฆฟิรลียฺ ซุนูบียฺ, ฟะอินนะฮู ลายัฆฟิรุซซุนูบะ อิลลาอันตะ ]
ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่ข้าพระองค์ได้กระทำไว้ ข้าพระองค์ขอสารภาพต่อพระองค์ในความโปรดปรานของพระองค์ที่ได้มีต่อข้าพระองค์ และขอสารภาพในความผิดของข้าพระองค์ต่อพระองค์ ดังนั้นขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ใดจะอภัยโทษในความผิดต่าง ๆ ให้แก่ข้าพระองค์ได้ นอกจากพระองค์ท่านเท่านั้น" บันทึกโดยอัลบุคอรียฺและอันนะซาอียฺ
ผู้ใดกล่าวดุอาอฺต้นนี้ในเวลากลางวัน โดยมีความเชื่อมั่นต่อคำกล่าวนี้ แล้วเขาสิ้นชีวิตลงในวันนั้นก่อนที่จะถึงเวลาเย็น เขาก็จะเป็นชาวสวรรค์ และผู้ใดกล่าวมันในเวลากลางคืน โดยมีความเชื่อมั่นต่อคำกล่าวนี้ แล้วเขาสิ้นชีวิตก่อนที่จะรุ่งเช้า เขาก็จะเป็นชาวสวรรค์
5. การกล่าวอัตตัสเบี๊ยะฮฺ อัตตะฮฺมีด อัตตั๊กบีร อัตตะฮฺลีล และอัลเฮาก้อละฮฺ
• อัตตัสเบียะห์ التسبيح คือกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮฺ• อัตตะห์มีด التحميد คือกล่าวว่า อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ• อัตตักบีร التكبير คือกล่าวว่า อัลลอฮุอักบัร• อัตตะฮฺลีล คือกล่าวว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ• อัลเฮาก้อละฮฺ คือกล่าวว่า ลาเฮาละวะลากูวะตะอิลลาบิลลาฮฺ
5.1 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ر ได้กล่าวว่า "คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะหมดความสามารถเชียวหรือที่จะแสวงหาความดีหนึ่งพันครั้งในวันหนึ่ง ?" ผู้ที่นั่งร่วมชุมนุมคนหนึ่งได้ถามท่านร่อซูลุลลอฮฺว่า "จะทำอย่างไรที่จะให้ได้มาซึ่งความดีหนึ่งพันครั้ง ?" ท่านร่อซูลุลลอฮฺได้ตอบเขาว่า "กล่าวตัสเบี๊ยะห์หนึ่งร้อยครั้ง ความดีหนึ่งพันครั้งก็จะถูกบันทึกให้แก่เขา หรือความผิดหนึ่งพันครั้งก็จะถูกลบออกจากเขา" บันทึกโดยมุสลิม
5.2 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "คำกล่าวที่ดียิ่งมีอยู่ 4 คำ จะไม่เป็นภัยแก่ท่าน ไม่ว่าท่านจะเริ่มคำไหนก่อน คือ
سُبْحَانَ الله وَبِحَمْدِهِ ، سُبْحَانَ اللهِ العَظِيْمِ
[ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮี, ซุบฮานัลลอฮิลอะซีม]
(มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ และการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺเป็นผู้เกรียงไกรยิ่ง)" บันทึกโดยอิบนฺอันนัจญาร และอัดไดละมีย์และอิบนิฮิบบาน และอะหมัด
5.3 มีรายงานจากอะบีฮุรอยเราะฮฺ แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "การที่ฉันจะกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮฺ วัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺ วะลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ วัลลอฮุอักบัร นั้น เป็นที่รักยิ่งแก่ฉันยิ่งกว่าการที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นในวันนั้น" บันทึกโดยมุสลิม
5.4 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า "มีคำกล่าว 2 คำ เมื่อกล่าวแล้วเบาลิ้น มีน้ำหนักในตราชั่ง เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ คือ
سُبْحَانَ الله وَبِحَمْدِهِ ، سُبْحَانَ اللهِ العَظِيْمِ
[ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮี, ซุบฮานัลลอฮิลอะซีม]
(มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺและด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์ มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺผู้ทรงยิ่งใหญ่)" บันทึกโดยอัลบุคอรียฺและมุสลิม
5.5 มีรายงานจากอะบีซัรริน แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “ฉันจะบอกท่านถึงคำกล่าวที่เป็นที่รักยิ่ง ณ ที่อัลลอฮฺ คือ ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮี (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์)” บันทึกโดยมุสลิม
5.6 และอีกรายงานหนึ่งแจ้งว่า “ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ถูกถามว่า “คำกล่าวอันใดที่ประเสริฐยิ่ง ?” ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้ตอบว่า “สิ่งที่อัลลอฮฺทรงคัดเลือกให้แก่มะลาอิกะฮฺของพระองค์หรือปวงบ่าวของพระองค์คือ ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮี (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์)” บันทึกโดยมุสลิม
5.7 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าว “ผู้ใดตระหนี่ที่จะบริจาคทรัพย์สิน และไม่อดทน (ที่จะยืนละหมาด) ในเวลากลางคืน ก็ให้เขากล่าว ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮี (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ และด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์)” บันทึกโดยอะบูนะอีม ในหนังอัลมะอฺริฟะฮฺ และบุคอรียฺในหนังสืออัลอะดับ และอัฏฏ๊อบรอนียฺ และอัลบานียฺกล่าวว่าเป็นหะดีษศ่อเฮี้ยะฮฺ
5.8 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “ผู้ใดกล่าว ซุบฮานัลลอฮิวะบิฮัมดิฮี (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺและด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์) เสมือนกับว่าเขาได้ปลูกต้นอินทผลัมหนึ่งต้นในสวรรค์” บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ อิบนิฮิบบานและฮากิมและอัลบานียฺว่าเป็นหะดีษศ่อเฮี้ยะฮฺ
5.9 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “ผู้ใดกล่าว ซุบฮานัลลอฮิวะบิฮัมดิฮี (มหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺและด้วยการสรรเสริญต่อพระองค์) ในวันหนึ่งร้อยครั้ง ความผิดต่าง ๆ ของเขาจะถูกลบล้างไป ถึงแม้ว่าความผิดต่าง ๆ นั้นเท่ากับฟองน้ำในทะเล” บันทึกโดยอะหมัด บุคอรียฺ มุสลิม อัตติรมิซียฺ และอิบนิมาญะฮฺ
5.10 มีรายงานจากอะบีมูซา อัลอัชอะรียฺ แจ้งว่า ท่านนบี ได้กล่าวกับฉันว่า “พึงทราบเถิด ฉันจะชี้แนะให้แก่ท่านถึงขุมทรัพย์แห่งหนึ่งในบรรดาขุมทรัพย์ในสวนสวรรค์เอาไหม ?” ฉันได้ตอบว่า “เอาซิครับท่านร่อซูลุลลอฮฺ!” ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “จงกล่าว ลาเฮาละวะลากูวะตะอิลลาบิลลาฮิ (ไม่มีกำลังใด ๆ และไม่มีพลังใด ๆ นอกจากด้วยอำนาจและพลังของอัลลอฮฺ)” บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ มุสลิม อะบูดาวู้ด และอัตติรมิซียฺ
5.11 ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า “จงปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ในสวนสวรรค์ เพราะน้ำของมันจืดบริสุทธิ์และดินของมันมีกลิ่นหอม ดังนั้นจงปลูกมันให้มาก ๆ ด้วยการกล่าว ลาเฮาละวะลากูวะตะอิลลาบิลลาฮิ (ไม่มีอำนาจใด ๆ และไม่มีพลังใด ๆ นอกจากด้วยอำนาจและพลังของอัลลอฮฺ)” บันทึกโดยอัฏฏ๊อบรอนียฺและอัลบานียฺว่าเป็นหะดีษหะซัน